บิลลี่ ลิม (Billy Lim) เป็นนักเขียนผู้มีชื่อเสียงชาวมาเลเซีย กล่าวถึงหนังสือ ‘Dare to Fail กล้าล้มเหลว’ ของเขาว่า ไม่ใช่หนังสืออัตชีวประวัติ หรือฮาวทู แต่เป็นหนังสือที่กล่าวถึง ‘อีกแง่มุมหนึ่ง’ ของเรื่องราวแห่งความสำเร็จที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
“โลกเราทุกวันนี้หลงใหลได้ปลื้มกับผู้ชนะและรังเกียจเดียดฉันท์ผู้แพ้ เหมือนว่าเราได้ก้าวสู่ระดับที่ ‘ไม่มีใครสามารถจะกระทำผิดได้’ ทั้งที่มนุษย์เราเรียนรู้จากความผิดพลาดในแต่ละยุคสมัยจนก้าวมาเป็นเราในวันนี้
“คนที่ประสบความสำเร็จจะได้รับการวางภาพพจน์เหมือน ‘ซูเปอร์แมน’ ผู้ปราศจากความผิดพลาด และเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งซึ่งดูไม่น่าจะเป็นไปได้ และอาจนำไปสู่ผลที่ไม่ดีก็เป็นได้ ดังนั้น คนเราจำเป็นต้องเข้าใจว่าความผิดพลาดและความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดา และเกิดขึ้นได้บ่อยในคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่มิได้ประสบความสำเร็จ”
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ บิลลี่ ลิม – ผู้เขียนใช้วิธีการรวบรวมและสัมภาษณ์นักธุรกิจและผู้มีชื่อเสียง พวกเขาพร้อมจะแบ่งปันเรื่องราวอีกด้านของประสบการณ์ที่มี เพื่อถ่ายทอดถึงคนรุ่นใหม่ที่ต้องการประสบความสำเร็จ
บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ของโลกล้วนแต่ประสบความล้มเหลวมาแล้วทั้งนั้นก่อนจะก้าวสู่ความเป็นมหาบุรุษ เมื่อคนเราล้มเหลว เราไม่จำเป็นต้องรำพันร่ำไรกับความล้มเหลวนั้น แต่เราต้องยอมรับ ค้นหาเหตุและผลที่ทำให้เป็นเช่นนั้น การรู้ว่าเราผิดพลาดประการใด ย่อมสำคัญกว่าการประสบความสำเร็จโดยไม่รู้ที่มาที่ไป
“ความกล้าที่จะยึดมั่นในความจริงแบบที่เราเข้าใจนั้น ต้องอาศัยความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับตัวเอง โดยยอมรับความผิดพลาดทั้งหมดที่เราเป็นผู้กระทำอย่างหน้าชื่นตาบาน ความผิดพลาดจะถือว่าบาป ก็ต่อเมื่อเราเองไม่กล้าหาญพอที่จะยอมรับมัน”
“ผมทำผิดมาตลอดชีวิต และถ้าจะมีอะไรช่วยผมได้ นั่นคือว่าครั้งใดทีผมทำผิด ผมไม่เคยที่จะหยุดเพื่อพูดบ่นถึงมัน ผมจะก้าวต่อไปข้างหน้า และทำผิดมากขึ้น”
“ในช่วงเวลาที่ลำบากเหมือนเหล็กกล้าที่อยู่ในเบ้าหลอมจะมีชั่วขณะที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมองและความเจ็บปวดเหมือนน้ำบ่าไหลเอ่อล้นในแม่น้ำ ชีวิตมีทั้งช่วงน้ำขึ้นและน้ำลงเหมือนฤดูกาลที่เปลี่ยนไปเป็นวัฏจักร ชีวิตมีทั้งฤดูร้อนที่อบอุ่นและฤดูหนาวที่เยือกเย็น … แต่เราต้องสามารถยกตัวเองขึ้นจากห้วงเวลาแห่งความผิดหวัง สู้เส้นทางแห่งความหวังและรู้จักเปลี่ยนหุบเขาที่มืดเดียวดายให้กลายเป็นเส้นทางที่สุขสงบและมีแสงสว่าง”